วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558

การจ่ายค่าส่วนกลางให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร

พบบทความที่เกี่ยวข้องกับ กรรมการนิติบุคคลฯและลูกบ้าน นำมาเป็นความรู้ เปรียบเทียบความคิดเห็นจากหลายหมู่บ้านหลายๆคน
                การจ่ายค่าส่วนกลางให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร เป็นสิ่งจำเป็น เพราะเมื่อคำนึงถึงความจำเป็นที่นิติบุคคลหมู่บ้าน จัดสรรที่ต้องบริหารจัดการให้หมู่บ้านอยู่ในสภาพที่ดี สังคมที่ดี ผู้อยู่อาศัยมีความสุข แต่ที่พบเห็นเสมอคือจะมีผู้อาศัย จำนวนหนึ่งมักอ้างสิทธิว่าตัวเองมีสิทธิในทรัพย์สินส่วนตัวและสิทธิในพื้นที่ส่วนรวมภายในหมู่บ้าน แต่ปฏิเสธหน้าที่และ ความรับผิดชอบในการจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนกลาง โดยจะอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ

ลูกบ้านที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลางจะเป็นปัญหาใหญ่ของผู้บริหารและกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรทุกแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งต่างก็พยายามหาวิธีทางจัดการในรูปแบบที่ต่างกัน บ้างครั้งก็ได้ผลไม่ได้ผลบ้าง

การดำเนินการของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรมักจะใช้วิธีการจากเบาไปหาหนัก มีตั้งแต่การปรับเปลี่ยนสติ้กเกอร์ เข้า-ออกหมู่บ้านทุก 3 เดือน 6 เดือน หรือทุกปี เพื่อกระตุ้นให้ลูกบ้านมาชำระค่าส่วนกลาง โดยแลกกับในการเข้า-ออก หมู่ บ้านที่สะดวก แต่วิธีนี้ก็ไม่สามารถใช้กับลูกบ้านที่เห็นแก่ตัวได้เพราะผู้ที่ไม่ชำระก็มักจะยอมแลกบัตรทุกเช้า-เย็น หรือไม่ก็ ยอมลงมาจากรถ เพื่อยกไม้กั้นทางเข้า-ออกด้วยตัวเองก็มี

วิธีที่แรงขึ้นมาอีกขั้น คือการงดจัดเก็บขยะ หรืองดสิทธิในการเรียกร้องค่าชดเชยกรณีมีขโมยขึ้นบ้าน แต่ก็อาจจะ ไม่ได้ผลมากนัก เพราะลูกบ้านที่ตั้งใจจะไม่จ่าย ก็จะไม่สนใจและไม่กลัวขโมยก็มี

พรบ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 มาตรา 50 บัญญัติไว้ว่าผู้ที่ค้างชำระติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป อาจระงับการ ให้บริการหรือการใช้สิทธิในสาธารณูปโภค และในกรณีที่ค้างชำระติดต่อกันตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ ระงับการจดทะเบียนสิทธิสิทธิและนิติกรรมในที่ดินจัดสรรของผู้ค้างชำระจนกว่าจะชำระให้ครบถ้วน (ซึ่งจะคล้ายกับ พรบ. อาคารชุด)

ผลทางกฎหมาย คือเมื่อลูกบ้านผู้ค้างชำระเกิน 6 เดือน ให้นิติบุคคลสามารถระงับการทำนิติกรรมที่สำนักงานที่ดิน ได้ แต่เมื่อมาคิดดูดีๆ แล้วจะพบว่า กว่าผู้ซื้อบ้านจะผ่อนหมด จนถึงวันจะทะเบียนไถ่ถอนจำนอง ก็ใช้เวลาประมาณ 15-25 ปี กว่าจะทำนิติกรรมอีกครั้งก็ต้องรอเป็นสิบๆปี ถ้าไม่ยอมจ่ายทำไม

คำตอบจากที่พบ จากแนวทางปฏิบัติของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเคยปฏิบัติมาคือ การฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งเป็นวิธี เดียวที่ได้ผลแน่นอน 100% และปัจจุบันศาลได้มีการพิจารณาคดีหลายร้อยคดี มีแนวทางที่ชัดเจนว่าผู้อาศัยต้องเป็นผู้มีหน้าที่ ชำระค่าส่วนกลาง เพราะเห็นว่าในเมื่อเราซื้อบ้านจัดสรรเราย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่า เราจะต้องจ่ายค่าส่วนกลาง

ดังนั้น ผู้ซื้อบ้านจัดสรรทั้งหลายขออย่าได้ดื้อดึงหรือเอารัดเอาเปรียบ เพื่อนบ้านเลยนะครับ เพราะในที่สุดแล้วเมื่อ มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ผู้ซื้อบ้านก็ต้องเสียทั้งค่าส่วนกลาง ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าทวงถาม ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ค่าทนาย และยังไม่นับรวมค่าเสียเวลา และอื่นๆ อีกมากมาย

จากดินสอพอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น