จอดรถกีดขวางทางมีสิทธิติดคุก
จอดรถกีดขวางทางคนอื่น มีสิทธิติดคุก
การจอดรถขวางประตูบ้านของผู้อื่ น หรือแม้แต่การจอดขวางทางคนอื่ นในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า ซึ่งถือว่า เป็นที่สาธารณะสถาน ถือว่า เป็นการกระทำให้ผู้อื่นเดือดร้ อนรำคาญ เพราะไม่สามารถนำรถเข้าหรื อออกจากบ้าน หรือออกจากลานจอดไม่ได้
ข้ออ้างว่าถนนหน้าบ้านเป็นที่ สาธารณะ หรือ เจ้าของบ้านไม่ควรใช้รถเมื่ อเขาจอดรถบนถนนหน้าบ้าน ใช้อ้างไม่ได้และไร้สาระ เนื่องจากเจ้าของรถใช้สิทธิไปก่ อความเดือดร้อนของผู้อื่นทั้งที ่รู้แก่ใจถึงความเสียหายนั้นเยี ่ยงวิญญูชนพึงรู้กัน จึงถือว่า กระทำความผิดฐานก่อความเดือดร้ อนรำคาญใจตามมาตรา 397 หมวดลหุโทษ
ทั้งนี้ เมื่อเป็นความผิดกฎหมายอาญาแล้ว ตำรวจจะปัดไม่รับแจ้งความร้องทุ กข์ไม่ได้ ถ้าปฏิเสธ อาจมีโทษฐานละเว้นหน้าที่โดยทุ จริต เพราะความผิดฐานนี้ไม่จำเป็นต้ องมีความเสียหายเกิดขึ้น แค่เกิดพฤติกรรมที่ทำให้ผู้อื่ นเดือดร้อนรำคาญใจ ก็เป็นความผิดอาญาฐานนี้แล้ว
นายปรีชา ธนศิลป์ โจทก์
ร้อยตำรวจโทสุทธี กันตะเพ็ง ที่ 1 นางสุนีย์ กันตะเพ็ง ที่ 2 จำเลย
ป.อ. มาตรา 1(3), 310, 397
จำเลยจอดรถขวางกั้นไม่ให้โจทก์ ถอยรถออกไปจากซอยที่เกิดเหตุ เป็นเพียงขัดขวางไม่ให้โจทก์ นำรถออกไปได้เท่านั้น ส่วนตัวโจทก์มีอิสระที่ จะออกไปจากซอยได้ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็ นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 แต่เป็นการรังแกข่มเหงทำให้ โจทก์ได้รับความเดือดร้ อนรำคาญแม้ซอยนั้นจะอยู่ในที่ดิ นของผู้มีชื่อซึ่งแบ่งให้ผู้อื่ นเช่าปลูกบ้าน แต่ประชาชนก็ชอบที่จะเข้ าออกไปติดต่อกับผู้ที่อยู่ ในซอยนั้นได้ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำในที่ สาธารณสถาน จึงมีความผิ ดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองนำรถยนต์และรถจั กรยานยนต์จอดขวางถนนซอยเป็นเหตุ ให้โจทก์ไม่สามารถนำรถยนต์ ออกไปจากซอยได้ เป็นการหน่วงเหนี่ยวหรือกักขั งโจทก์ให้ปราศจากเสรีภายในร่ างกาย และเป็นการรังแกข่มเหงและก่ อความเดือดร้อนรำคาญต่อโจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310, 397 และ 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้อง มีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิ พากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิ ดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ให้จำคุกจำเลยคนละ 15 วัน และปรับคนละ 500 บาท โทษจำคุกให้ยกเสีย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิ พากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยจอดรถขวางกั้นไม่ให้ โจทก์ถอยรถออกไปจากซอยที่เกิ ดเหตุนั้น โจทก์ไม่ได้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรื อกักขังหรือทำให้โจทก์ ปราศจากเสรีภาพในร่างกายแต่อย่ างใด โจทก์มีอิสระที่จะออกไปจากซอยนั ้นได้ จำเลยเพียงแต่ขัดขวางไม่ให้ โจทก์นำรถออกไปได้เท่านั้น การกระทำของจำเลยยังไม่เป็ นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 ดังโจทก์ฎีกา
ส่วนฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยไม่ทราบว่าโจทก์ จะถอยรถออกไปจำเลยมิได้มี เจตนาจะปิดกั้นไม่ให้โจทก์ เอารถออก ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่ า จำเลยไม่ยอมถอยรถให้โจทก์ออกเป็ นการรังแกข่มเหงโจทก์ทำให้โจทก์ ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ แม้ซอยนั้นจะเป็นซอยในที่ดิ นของนางสวรรค์ สุวรรณเนตร ซึ่งแบ่งให้ผู้อื่นเช่าปลูกบ้ านอยู่อาศัย แต่ประชาชนก็ชอบที่จะเข้ าออกไปติดต่อกับผู้ที่อยู่ในที่ ดินในซอยนั้นได้ ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยได้ กระทำในที่ สาธารณสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397
พิพากษายืน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาตรา ๓๙๗ #ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอั บอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพั นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ งเป็นการ กระทำในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้ าธารกำ นัลหรือเป็นการกระทำอันมีลั กษณะส่อไปใน ทางที่จะล่วงเกินทางเพศต้ องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่ เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิ ดตามวรรคสองเป็นการ กระทำโดยอาศัยเหตุที่ผู้กระทำมี อำนาจเหนือผู้ถูกกระทำอันเนื่ องจากความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็ นผู้บังคับบัญชานายจ้างหรือผู้ มีอำนาจเหนือประการอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่ งเดือน และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
การจอดรถขวางประตูบ้านของผู้อื่
ข้ออ้างว่าถนนหน้าบ้านเป็นที่
ทั้งนี้ เมื่อเป็นความผิดกฎหมายอาญาแล้ว ตำรวจจะปัดไม่รับแจ้งความร้องทุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2518
นายปรีชา ธนศิลป์ โจทก์
ร้อยตำรวจโทสุทธี กันตะเพ็ง ที่ 1 นางสุนีย์ กันตะเพ็ง ที่ 2 จำเลย
ป.อ. มาตรา 1(3), 310, 397
จำเลยจอดรถขวางกั้นไม่ให้โจทก์
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองนำรถยนต์และรถจั
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้อง มีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิ
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยจอดรถขวางกั้นไม่ให้
ส่วนฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยไม่ทราบว่าโจทก์
พิพากษายืน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาตรา ๓๙๗ #ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอั
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่
ไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่
ถ้าการกระทำความผิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น